คุกกี้คืออะไร?
คุกกี้ คือ ข้อความขนาดเล็กที่ประกอบด้วยส่วนของข้อมูลที่มาจากการดาวน์โหลดที่อาจถูกเก็บบันทึกไว้ในเว็บเบราว์เซอร์ที่ท่านใช้งานหรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่ต่อเชื่อมอินเทอร์เน็ต (อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตของท่าน) โดยที่เครื่องเซิร์ฟเวอร์สามารถเรียกดูได้ในภายหลัง คล้ายกับหน่วยความจำของหน้าเว็บ
การทำงานของคุกกี้ ช่วยให้เรารวบรวมและจัดเก็บข้อมูลการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของท่านดังต่อไปนี้โดยอัตโนมัติ
การใช้งานคุกกี้
ประเภทของคุกกี้ที่เราใช้และในการใช้คุกกี้ดังกล่าว ประกอบด้วย แต่ไม่จำกัดเพียง รายการต่อไปนี้
คุกกี้ประเภทที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง (Strictly Necessary Cookies): คุกกี้ประเภทนี้มีความสำคัญต่อการทำงานของเว็บไซต์ ซึ่งรวมถึงคุกกี้ที่ทำให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและใช้งานในเว็บไซต์ของเราได้อย่างปลอดภัย
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์/วัดผลการทำงานของเว็บไซต์ (Analytical/Performance Cookies): คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เราสามารถจดจำและนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ตลอดจนช่วยให้เราทราบถึงพฤติกรรมในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ เพื่อปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ให้มีคุณภาพดีขึ้นและมีความเหมาะสมมากขึ้น อีกทั้งเพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับวิธีการเข้าและพฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์โดยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย และช่วยให้เราเข้าใจถึงความสนใจของผู้ใช้ และวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณาของเรา
คุกกี้เพื่อการทำงานของเว็บไซต์ (Functionality Cookies): คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการจดจำตัวท่านเมื่อท่านกลับมาใช้งานเว็บไซต์อีกครั้ง ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถปรับแต่งเนื้อหาสำหรับท่าน ปรับให้เว็บไซต์ของเราตอบสนองความต้องการใช้งานของท่าน รวมถึงจดจำการตั้งค่าของท่าน อาทิ ภาษา หรือภูมิภาค หรือขนาดของตัวอักษรที่ท่านเลือกใช้ในการใช้งานในเว็บไซต์
คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies): คุกกี้ประเภทนี้จะบันทึกการเข้าชมเว็บไซต์ของท่าน หน้าเว็บที่ท่านได้เยี่ยมชม และลิงก์ที่ท่านเยี่ยมชม เราจะใช้ข้อมูลนี้เพื่อปรับให้เว็บไซต์และเนื้อหาใด ๆ ที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บตรงกับความสนใจของคุณมากขึ้น นอกจากนี้ เรายังอาจแชร์ข้อมูลนี้กับบุคคลที่สามเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว และ
คุกกี้เพื่อการโฆษณา (Advertising Cookies): คุกกี้ประเภทนี้จะจดจำการตั้งค่าของท่านในการเข้าใช้งานหน้าเว็บไซต์ และนำไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการปรับเปลี่ยนหน้าเว็บไซต์เพื่อนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ตัวอย่างเช่น การเลือกแสดงโฆษณาสินค้าที่ท่านสนใจ การป้องกันหรือการจำกัดจำนวนครั้งที่ท่านจะเห็นหน้าเว็บไซต์ของโฆษณาซ้ำ ๆ เพื่อช่วยวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณา
โปรดทราบว่าคุกกี้บางประเภทในเว็บไซต์นี้จัดการโดยบุคคลที่สาม เช่น เครือข่ายการโฆษณา ลักษณะการทำงานต่าง ๆ อาทิ วิดีโอ แผนที่ และโซเชียลมีเดีย และผู้ให้บริการเว็บไซต์ภายนอกอื่น ๆ เช่น บริการวิเคราะห์การเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ เป็นต้น คุกกี้เหล่านี้มักจะเป็นคุกกี้เพื่อการวิเคราะห์/วัดผลการทำงาน หรือคุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย ท่านควรต้องศึกษานโยบายการใช้คุกกี้และนโยบายส่วนบุคคลในเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม เพื่อให้เข้าใจถึงวิธีการที่บุคคลที่สามอาจนำข้อมูลของท่านไปใช้
การตั้งค่าคุกกี้
ท่านสามารถบล็อกการทำงานของคุกกี้ได้โดยการกำหนดค่าในเบราว์เซอร์ของท่าน ซึ่งท่านอาจปฏิเสธการติดตั้งค่าคุกกี้ทั้งหมดหรือบางประเภทก็ได้ แต่พึงตระหนักว่าหากท่านตั้งค่าเบราว์เซอร์ของท่านด้วยการบล็อกคุกกี้ทั้งหมด (รวมถึงคุกกี้ที่จำเป็นต่อการใช้งาน) ท่านอาจจะไม่สามารถเข้าสู่เว็บไซต์ทั้งหมดหรือบางส่วนของเราได้
เมื่อใดก็ตามที่ท่านต้องการยกเลิกความยินยอมการใช้งานคุกกี้ ท่านจะต้องตั้งค่าเบราว์เซอร์ของท่านเพื่อให้ลบคุกกี้ออกจากแต่ละเบราว์เซอร์ที่ท่านใช้งานการเปลี่ยนแปลงนโยบายการใช้คุกกี้
เราอาจปรับปรุงนโยบายการใช้คุกกี้นี้และเราขอส่งเสริมให้ท่านทบทวนนโยบายนี้เป็นระยะ ๆ เพื่อรับทราบถึงวิธีการใช้คุกกี้ของเรา นโยบายการใช้คุกกี้นี้ได้รับการปรับปรุงล่าสุดเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2020
www.thailandpropertyfocus.com (“เวปไซต์”) ยึดมั่นการดำเนินธุรกิจอย่างมีจรรยาบรรณ เคารพและปฏิบัติตามกฎหมายที่บังคับใช้ และตระหนักถึงการได้รับความไว้วางใจจากท่านที่ใช้บริการของบริษัท และเข้าใจดีว่าท่านต้องการความปลอดภัยในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่แจ้งให้แก่ทางบริษัท
บริษัทได้ให้ความสำคัญด้านการเคารพสิทธิในความเป็นส่วนตัว และ การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ในการดำเนินงานของบริษัทด้วยมาตรการที่เข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อให้ท่านได้มั่นใจว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกนำไปใช้ตรงตามความต้องการของท่านและถูกต้องตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
นโยบายฉบับนี้ใช้บังคับกับบริษัทเพื่อกำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ต่างๆ ในการดำเนินงานของบริษัท ตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึง พระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง ประกาศ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือแนวปฏิบัติ (Guideline) ใด ๆ ที่ออกภายใต้พระบัญญัติดังกล่าว
ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับบุคคลใดซึ่งสามารถใช้ระบุตัวตนของบุคคลดังกล่าวได้ แต่ไม่รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งถูกทำให้ไม่สามารถระบุตัวตนของบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้ (anonymous data) เช่น ชื่อ-นามสกุล, หมายเลขบัตรประชาชน, ที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์, อีเมล (email address) ข้อมูลบัตรเครดิต ภาพถ่ายของท่าน, เชื้อชาติ, สัญชาติ, ศาสนา, วันเดือนปีเกิด, ข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อสินค้าและบริการ, ข้อมูลการชำระเงิน เป็นต้น
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หมายความรวมถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ, เผ่าพันธุ์, ความคิดเห็นทางการเมือง, ความเชื่อในลัทธิ, ศาสนาหรือปรัชญา, พฤติกรรมทางเพศ, ประวัติอาชญากรรม, ข้อมูลสุขภาพ, ความพิการ, ข้อมูลสหภาพแรงงาน, ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ, หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
ประมวลผล หมายถึง เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย
บริษัท หมายถึง www.thailandpropertyfocus.com (“เวปไซต์”)
บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ ซึ่งท่านได้ให้ไว้กับบริษัทโดยทางตรงหรือเกิดจากการใช้บริการหรือการติดต่อสื่อสารกับบริษัท ทั้งในรูปแบบเอกสารหรือข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ ข้อมูลที่บริษัทจัดเก็บจะดำเนินการให้ได้มาด้วยวิธีการที่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นธรรม และเหมาะสม และการจัดเก็บเพียงเท่าที่จำเป็นสำหรับการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงผลกระทบของการไม่ให้ข้อมูล และบริษัทจะขอความยินยอมจากท่านก่อนเก็บรวบรวม เว้นแต่การเก็บรวบรวมนั้นสามารถดำเนินการได้ตามที่กฎหมายกำหนด ในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นที่จะต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน บริษัทจะดำเนินการให้ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านก่อนเก็บรวบรวม เว้นแต่การเก็บรวบรวมนั้นสามารถดำเนินการได้ตามที่กฎหมายกำหนด บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลของท่านไว้เป็นระยะเวลาตามวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลนั้นๆ ซึ่งบริษัทจะได้แจ้งให้ท่านทราบก่อนการซื้อสินค้า ใช้บริการ ติดต่อสื่อสาร หรือเข้าทำสัญญาในแต่ละเรื่อง และหากภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบ ซึ่งบริษัทจะเปิดเผยไว้บนเว็บไซต์ของบริษัท
บุคลากรของบริษัททุกคนมีหน้าที่ในการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายความเป็นส่วนตัว และนโยบายและแนวทางปฏิบัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัย
บทกำหนดโทษ
ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินงานเรื่องใดเรื่องหนึ่งตามหน้าที่ของตน หากละเลย หรือละเว้นไม่สั่งการหรือไม่ดำเนินการ หรือสั่งการ หรือดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งในหน้าที่ของตน อันเป็นการฝ่าฝืนนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล จนเป็นเหตุให้เกิดความผิดตามกฎหมายหรือความเสียหายขึ้น ผู้นั้นต้องรับโทษทางวินัยตามระเบียบของบริษัท
บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งให้ทราบหรือตามสัญญา หรือเฉพาะที่เกี่ยวเนื่องกับการติดต่อสื่อสาร หรือติดต่อทางธุรกิจกับท่าน หรือได้รับความยินยอมจากท่านแล้ว หรือเป็นกรณีที่บริษัทสามารถใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากท่านในกรณีที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอนุญาตให้ทำได้เท่านั้น และบริษัทจะดูแลไม่ให้ผู้ปฏิบัติงานของบริษัทเปิดเผย แสดง หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านปรากฎในลักษณะอื่นนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งให้ทราบหรือที่ได้รับความยินยอมจากท่าน หรือสามารถดำเนินการได้ตามที่กฎหมายกำหนด
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาจถูกนำไปใช้ในการศึกษา วิจัย หรือการจัดทำสถิติ เพื่อการพัฒนา ปรับปรุงคุณภาพการให้บริการ การส่งเสริมด้านการตลาด การให้ข้อมูลและ/หรือ รายการอัพเดทเกี่ยวกับสินค้าตามวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานของบริษัท และเพื่อให้ท่านได้รับประโยชน์และความพึงพอใจสูงสุด
ท่านมีสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยบริษัทจะไม่อนุญาตให้มีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกจากพนักงานผู้ที่ได้รับอนุญาตของบริษัท และบุคคลที่ได้รับอนุญาตจากท่านให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตลอดจนจะป้องกันมิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้โดยมิได้รับอนุญาตจากท่านก่อน เว้นแต่บริษัทจะได้รับความยินยอมจากท่าน หรือกรณีบริษัทมีความจำเป็นต้องเปิดเผยเพื่อปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย หรือตามคำพิพากษา หรือตามคำสั่งของศาล หรือในการพิจารณาของศาล หรืออนุญาโตตุลาการ หรือองค์กรอื่นใดที่มีอำนาจตามกฎหมาย หรือตามประกาศ กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่ง หรือการร้องขอโดยหน่วยงานอื่นใดที่มีอำนาจตามกฎหมาย
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) และมาตรการเชิงบริหารจัดการ (Organizational Measure) หรือมาตรการตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น มาตรฐานความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้รับข้อมูลไปจากบริษัทใช้หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอำนาจหรือโดยไม่ชอบ และบริษัทได้มีการปรับปรุงนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นระยะๆ ตามความจำเป็นและเหมาะสม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน นอกจากนี้ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษา และผู้รับข้อมูลจากบริษัทมีหน้าที่ต้องรักษาความลับข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการรักษาความลับที่บริษัทกำหนดขึ้น
ทั้งนี้ การรับส่งข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตยังคงมีข้อจำกัดในการดูแลรักษาความปลอดภัย แม้บริษัทจะได้จัดให้มีมาตรการความปลอดภัยของข้อมูลอย่างเข้มงวดแล้วก็ตาม แต่บริษัทไม่อาจรับประกันความปลอดภัยของข้อมูลที่ท่านเปิดเผยผ่านช่องทางออนไลน์ได้ ดังนั้น บริษัทจึงขอสงวนสิทธิ์ที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบต่อความเสียหายหรือสูญหายที่อาจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะโดยตรง หรือโดยอ้อม จากการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทโดยมิได้รับอนุญาต (Unauthorized Access)
ท่านมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยแจ้งคำร้องผ่านช่องทางการติดต่อของบริษัท โดยบริษัทจะดำเนินการแจ้งถึงความมีอยู่ และรายละเอียดของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว แก่ท่าน หากท่านเห็นว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่ถูกต้อง หรือไม่เป็นปัจจุบัน ท่านสามารถแจ้งแก้ไข เปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ รวมถึงท่านมีสิทธิขอให้บริษัทเคลื่อนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน คัดค้านการประมวลผล ขอให้ระงับการใช้ หรือดำเนินการลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ เว้นแต่กรณีที่บริษัทอาจมีสิทธิปฏิเสธหรือจำกัดสิทธิของเจ้าของข้อมูลได้ตามที่กฎหมายคุ้มครองส่วนบุคคลกำหนด โดยบริษัทจะพยายามตอบกลับคำขอที่โดยชอบด้วยกฎหมายของท่านภายในเวลา 30 วัน แต่ในบางกรณีอาจใช้เวลามากกว่า 30 วัน หากคำขอของท่านมีความซับซ้อน หรือท่านยื่นคำขอหลายคำขอ ในกรณีนี้ บริษัทจะแจ้งท่านและคอยรายงานความคืบหน้าของกรณีให้ท่านทราบ ทั้งนี้ ในกรณีที่ท่านไม่ยินยอมให้บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือให้บริษัทลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ บริษัทขอเรียนให้ทราบว่าท่านอาจจะไม่สามารถใช้บริการบางอย่างของบริษัทได้ หรืออาจทำให้ท่านไม่ได้รับข้อมูลข่าวสาร หรือไม่ได้รับความสะดวกในการรับบริการ
บริษัทอาจมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของการให้บริการ การดำเนินงานของบริษัท และข้อเสนอแนะ/ความคิดเห็นจากท่าน ซึ่งบริษัทจะประกาศแจ้งการเปลี่ยนแปลงให้ทราบบนเว็บไซต์ของบริษัท หรืออาจส่งประกาศแจ้งให้ท่านทราบโดยตรง
เวปไซต์พยายามอย่างเต็มที่ในการดูแลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้มีความถูกต้องตรงตามความเป็นจริงอยู่เสมอ โดยท่านสามารถตรวจสอบได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีความถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ ทั้งนี้ หากท่านพบว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่ถูกต้อง หรือต้องการลบ หรือ ต้องการปฏิเสธไม่ให้ใช้ข้อมูล โปรดติดต่อ info@thailandpropertyfocus.com เพื่อดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องต่อไป
ปรับปรุงล่าสุดเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2565